พื้นที่แบบไหนที่ควรใช้รถกวาดพื้นดูดฝุ่น?

ก่อนที่จะซื้อ ต้องมีพื้นที่ใหญ่ขนาดไหนถึงจะเหมาะกับการใช้รถกวาดพื้นดูดฝุ่น?

โดยปกติแล้วเมื่อนึกถึงรถกวาดพื้นดูดฝุ่น เราคงนึกถึงการใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆ หรือพื้นที่กว้างขวาง แต่กว้างขวางขนาดไหนล่ะ ถึงจะเหมาะกับการใช้งาน? การเลือกใช้เครื่องมือในการทำความสะอาดโดยเฉพาะการทำความสะอาดพื้นที่ใหญ่ๆ จะช่วยให้เราทำความสะอาดได้ครอบคลุมและรวดเร็วมากกว่าใช้แรงคน เมื่อต้องตัดสินใจว่าพื้นที่ของเราควรใช้หรือไม่ สิ่งที่เราควรนำมาประกอบการตัดสินใจคือ ขนาดของพื้นที่ ความถี่ในการทำงาน และลักษณะของงาน โดยบทความนี้จะช่วยอธิบายวิธีเลือกประเภทรถดูดฝุ่นที่เหมาะกับแต่ละขนาดพื้นที่มีแบบไหนบ้าง

วิธีเลือกว่ารถกวาดพื้นดูดฝุ่นแต่ละประเภทจะเหมาะสมสำหรับพื้นที่ขนาดไหน?

ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อรถกวาดพื้นดูดฝุ่น ควรใช้ปัจจัยหลายอย่างในการประกอบการตัดสินใจ เช่น ขนาดพื้นที่ ประเภทของสิ่งสกปรก หรือความถี่การใช้งาน ถ้านำปัจจัยเหล่านี้มาประกอบการตัดสินใจจะช่วยให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ โดยขั้นตอนแรก เราควรเริ่มจากการประเมิณขนาดพื้นที่ของอุตสาหกรรม

สิ่งแรกที่เรามักจะนึกถึงแน่นอนคือเรื่องขนาดพื้นที่และงบประมาณ พื้นที่ขนาดไหนต้องใช้รถดูดฝุ่นแบบไหน? นอกจากปัจจัยเรื่องพื้นที่และต้นทุนแล้วยังมีอะไรอีกล่ะ? บทความนี้กล่าวถึงสามปัจจัยหลักในการเลือกใช้รถดูดกวาดฝุ่นในอุตสาหกรรม ซึ่งมีดังนี้

ขนาดพื้นที่ – เหมาะกับพื้นที่อย่างน้อย 1,000 ตารางเมตรขึ้นไป เพื่อประหยัดต้นทุนและเวลา

ประเภทของสิ่งสกปรก – เลือกรถให้เหมาะกับลักษณะสิ่งสกปรก เช่น ฝุ่นละเอียดหรือขยะขนาดใหญ่

ลักษณะพื้น – พื้นขรุขระควรเลือกรุ่นที่มีระบบกันกระแทก ส่วนพื้นเรียบสามารถใช้รถทั่วไปได้

รถดูดฝุ่นประเภทไหนที่เหมาะกับขนาดพื้นที่ของเรา?

นอกจากปัจจัยทีใช้ประกอบการตัดสินใจที่กล่าวในข้างต้นแล้ว สื่งที่นำมาประกอบการตัดสินใจเพิ่มเติมเพื่อที่จะทำให้สามารถเลือกตัวเครื่องให้ดีที่สุดก็คือ แหล่งพลังงานที่ใช้กับตัวเครื่อง เช่น แบบแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้สะดวกกว่าประเภทที่ใช้ไฟฟ้าซึ่งต้องใช้กับที่ที่มีปลั๊ก เป็นต้น และฟังก์ชั่นของเครื่องแต่ละประเภท บทความนี้จะนำเสนอรถกวาดพื้นดูดฝุ่น 6 ประเภทหลักๆด้วยกัน พร้อมข้อดี-ข้อเสียของรถแต่ละประเภท

1. รถกวาดพื้นแบบ Walk-behind (เดินตาม)

ตัวเครื่องจะมีขนาดเล็ก-กลาง วิธีใช้คือใช้คนควบคุมเครื่องและเดินตาม เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก-กลาง (ประมาณ 1,000-3,000 ตารางเมตร) เช่น สำนักงาน ร้านค้า โรงพยาบาล หรือพื้นที่ที่ต้องการความคล่องตัวสูง

ข้อดี: ราคาถูก ใช้งานง่าย ใช้งานสะดวกในพื้นที่แคบ

ข้อเสีย: รถต้องใช้คนในการควบคุมและมีขนาดเล็ก จึงไม่เหมาะกับการใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ เพราะอาจจะใช้เวลานานและใช้คนมากขึ้น

2.รถกวาดพื้นดูดฝุ่นแบบ Ride-on (นั่งขับ)

ตัวเครื่องมีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ วิธีใช้คล้ายกับแบบ Walk-Behind คือใช้คนคอยควบคุม แต่จะเปลี่ยนจากเดินตามเป็นนั่งขับเหมือนรถยนต์ เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดกลาง-ใหญ่ (มากกว่า 3,000 ตารางเมตรขึ้นไป) เช่น ลานจอดรถ โกดังสินค้า สนามบิน หรือโรงงานอุตสาหกรรม

ข้อดี: ทำความสะอาดได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในพื้นที่กว้าง ประหยัดเวลาลดและลดภาระพนักงาน

ข้อเสีย: ราคาสูง ใช้พื้นที่กว้างสำหรับการหมุนตัวของเครื่อง อาจจะไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางเยอะ

3.รถกวาดพื้นดูดฝุ่นแบบ Robotic (อัตโนมัติ)

การทำงานของเครื่องประเภทนี้จะพิเศษกว่าสองประเภทข้างต้น โดยตัวเครื่องจะใช้ระบบเซ็นเซอร์และ AI ในการสั่งงานทำความสะอาด ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ไม่จำเป็นต้องใช้คนควบคุม เช่น ห้างสรรพสินค้า หรืออาคารสำนักงาน

ข้อดี: ใช้งานง่าย มีหลายฟังก์ชันในการทำงาน และช่วยลดต้นทุนการจ้างงาน

ข้อเสีย: ราคาที่สูงมาก และการที่ตัวเครื่องควบคุมด้วยเซนเซอร์และ AI อาจจะไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความซับซ้อน

4.รถกวาดพื้นดูดฝุ่นแบบ Manual (กึ่งอัตโนมัติ)

วิธีใช้งานรถกวาดพื้นดูดฝุ่นแบบ Manual เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกในการทำความสะอาดพื้นผิวที่ไม่เปื้อนมาก ไม่ต้องทำความสะอาดบ่อยๆ ในพื้นที่ขนาดเล็กถึงกลาง วิธีใช้งานคือต้องมีคนเดินข้างๆตามเครื่อง หรือผลักให้เคลื่อนที่ไปข้างหน้า ตัวเครื่องส่วนใหญ่จะใช้ระบบล้อหมุนเพื่อให้เกิดการเคลื่อนที่ หรือระบบปั่นแปรงที่ใช้แรงกดดันจากการผลัก 

ข้อดี: ราคาไม่สูงเท่ากับประเภทที่ใช้มอเตอร์หรือแบตเตอรี่ และมีค่าบำรุงรักษาต่ำ การดูแลเพียงแค่ดูแลความสะอาดของแปรงและถุงเก็บฝุ่น

ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่ เพราะต้องใช้แรงคนและอาจจะใช้เวลานาน และประสิทธิภาพที่จำกัดเนื่องจากไม่มีระบบมอเตอร์อาจจะไม่สามารถจัดการที่ที่มีฝุ่นเล็กๆหรือเศษขยะขนาดใหญ่ได้

5.รถกวาดพื้นดูดฝุ่นแบบ Hybrid (ในร่มและกลางแจ้ง)

รถประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร สามารถใช้ได้ทั้งที่ที่มีพื้นที่เรียบและขรุขระได้อีกด้วย วิธีการทำงานของประเภทนี้มีระบบดูดฝุ่นที่ปรับได้ตามความต้องการในการใช้งานขึ้นอยู่กับแต่ละสภาพพื้นผิว และตัวเครื่องถูกออกแบบให้ทนทานต่อการทำงานหนักอีกด้วย เช่น ห้างสรรพสินค้า สำนักงาน และกลางแจ้ง เช่น ลานจอดรถ โรงงาน

ข้อดี: ใช้งานได้หลากหลายเหมาะกับใช้ในที่ร่มและกลางแจ้ง มีประสิทธิภาพสูง ทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็วบนแต่ละลักษณะพื้นที่

ข้อเสีย: มีราคาสูง และอาจจะต้องใช้ค่าบำรุงรักษามากกว่าประเภทอื่นๆ

6. รถกวาดพื้นดูดฝุ่นแบบเฉพาะงาน

ตัวเครื่องประเภทนี้ถูกออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานเฉพาะ จึงมีคุณสมบัติพิเศษในการเก็บเศษวัสดุหรือฝุ่นที่มีขนาด หรือชนิดที่เจาะจง เช่น เศษไม้จากโรงเลื่อย เศษเหล็กจากโรงงาน หรือแม้กระทั่งฝุ่นขนาดเล็กมากๆที่เกิดจากการผลิต 

ข้อดี: มีประสิทธิภาพสูงในงานเฉพาะ สามารถจัดการกับเศษวัสดุที่มีลักษณะเฉพาะได้ดี และมีความทนทานเนื่องจากถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับสภาพแวดล้อมที่มีการทำงานหนัก

ข้อเสีย: ราคาสูงเนื่องจากมีการออกแบบที่เฉพาะ และการใช้งานในพื้นที่ที่จำกัดหรือพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาดแบบเฉพาะเจาะจง

เนื่องจากการเลือกซื้อรถกวาดพื้นดูดฝุ่นเป็นส่วนหนึ่งที่มีผลต่องบประมาณจำนวนหนึ่ง ควรเลือกประเภทรถให้เหมาะสมกับขนาดอุตสาหกรรมของเรา ทำให้เราสามารถลดต้นทุนขององค์กรเราได้ แถมยังจะช่วยให้การทำงานเร็วขึ้น สะดวกขึ้น และปลอดภัยขึ้น ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงกับความเสียหายของเครื่องจักรและเพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุนในระยะได้ด้วย