เสิร์ฟอาหารให้ล้ำสมัย เพื่อดึงดูดและสร้างเอกลักษณ์กับร้านอาหาร
วิธีการเสิร์ฟอาหารสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าและสร้างเอกลักษณ์ให้กับร้านค้านั้น ๆ ได้ ทำให้ร้านอาหารมักสร้างสรรค์วิธีการเสิร์ฟที่ฉีกกฎเพื่อเพิ่มยอดขาย เช่น เสิร์ฟอาหารผ่านสายพานล่องหน เสิร์ฟบะหมี่ที่ทำสดใหม่ผ่านการไหลของน้ำ เป็นต้น ซึ่งหนึ่งในวิธีการเสิร์ฟอาหารที่ร้านค้าควรประยุกต์ คือ การใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ซึ่งไม่เพียงแค่ดึงดูดและสร้างเอกลักษณ์ แต่ยังมีประโยชน์ เพื่อช่วยให้งานเสิร์ฟมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตอบโจทย์การใช้งานและทำให้ร้านมีความร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น เพียงแต่หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารนั้นมีหลากหลายประเภทให้ร้านอาหารเลือกซื้อเพื่อความเหมาะสมต่อการใช้งาน
ทำความรู้จักประเภทหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารจาก Cleanatic
Cleanatic ที่ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้คน ทำให้สามารถสร้างหุ่นยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวัน รวมถึงหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ซึ่งในบทความนี้จะชวนคุณมาทำความรู้จักหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารจาก Cleanatic เพื่อเป็นตัวช่วยสำหรับร้านอาหาร
1.หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร รุ่น Ketty Bot
Ketty Bot เป็นหุ่นยนต์อัจฉริยะที่จะทำให้ทุกการเสิร์ฟนั้นง่ายดายขึ้น อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษ ดังนี้
- เสิร์ฟอาหาร
ด้วยความสามารถในการเคลื่อนที่ด้วยตนเอง ทำให้ Ketty Bot สามารถเสิร์ฟอาหารได้อย่างแม่นยำด้วยฝาหลังที่สามารถถอดและต่อเติม เพื่อใช้เป็นชั้นวางอาหาร จึงช่วยลดภาระงานของพนักงาน
- การปฏิสัมพันธ์
Ketty Bot ยังสามารถปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้อีกด้วย เนื่องจากมีระบบเสียงทักทายและโต้ตอบ อีกทั้งระบบดังกล่าวยังช่วยนำทางให้กับลูกค้าได้อีกด้วย
- การแสดงผล
หุ่นยนต์เสิร์ฟส่วนใหญ่มักมีจอแสดงผลเล็กหรืออาจไม่มีเลย เพียงแต่ Ketty Bot มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งร้านค้าสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อลดความอึดอัดระหว่างลูกค้าและหุ่นยนต์
2.หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร รุ่น Pudu Bot
Pudu Bot เป็นหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารรูปลักษณ์คุ้นชินตาเพราะเห็นได้ทั่วไปตามร้านอาหารในปัจจุบัน ซึ่งมีคุณสมบัติเฉพาะที่ผู้ประกอบการยอมรับ ดังนี้
- เสิร์ฟอาหาร
Pudu Bot มาพร้อมกับระบบสแกน QR Code เพื่อใช้ส่งอาหารได้อย่างแม่นยำหลากเมนูหลายโต๊ะภายในการเสิร์ฟเพียง 1 ครั้ง ด้วยฝาหลังที่สามารถบรรจุได้ถึง 4 ถาด ที่รองรับน้ำหนักได้มากถึง 10 กิโลกรัม / ถาด
- การระบุตำแหน่ง
ไม่เพียงแค่การเสิร์ฟอย่างแม่นยำ แต่ผู้ประกอบการและพนักงานสามารถระบุตำแหน่งของหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารรุ่น Pudu Bot ได้อีกด้วย เนื่องจากมีระบบ V SLAM เพื่อใช้ประมวลผลสำหรับการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง เพิ่มความปลอดภัย
- จอแสดงผล
จอแสดงผลจาก Pudu Bot ที่ออกแบบได้อย่างกลมกลืนเพื่อแสดงปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ช่วยสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารด้วยเสียงระดับมาตรฐานสากล
- การสื่อสารร่วมกับหุ่นยนต์
Pudu Bot ที่สามารถรับคำสั่งการทำงานจากการตั้งค่าได้แล้ว ยังสามารถสื่อสารร่วมกับหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารอื่น ๆ ด้วยอัลกอริทึม Pudu Scheduler
3.หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร รุ่น Bella Bot
หากผู้ประกอบการชื่นชอบแมว หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร รุ่น Bella อาจเป็น Bot ที่คุณกำลังตามหา เพราะมีรูปลักษณ์การแสดงผลและนิสัยคล้ายกับแมว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่น ดังนี้
- เสิร์ฟอาหาร
Bella Bot สามารถทำงานเสิร์ฟได้หลากหลายรูปแบบ เนื่องจากมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัย ด้วยการระบบเลเซอร์นำทาง เพื่อการระบุพิกัดการเสิร์ฟที่แม่นยำและปลอดภัย
- การปฏิสัมพันธ์
เนื่องจาก Bella Bot นั้นเป็นหุ่นยนต์ที่ออกแบบมาให้มีลักษณะนิสัยคล้ายกับแมว จึงสร้างการปฏิสัมพันธ์ที่สมบูรณ์แบบ เช่น การแสดงสีหน้า การแสดงอารมณ์ การสนทนาตามสถานการณ์ อีกทั้งยังตอบสนองต่อการสัมผัสอีกด้วย
- ความแข็งแรง
แม้ว่าจะมีรูปร่างภายนอกน่ารัก น่ากอด จนลดความกระอักกระอ่วน แต่ Bella Bot นั้นมีความแข็งแรงด้วยความสามารถในการรองรับปริมาณบรรจุถึง 40 กิโลกรัม เฉลี่ยเป็น 10 กิโลกรัม / ถาด ในการเสิร์ฟอาหาร 1 ครั้ง
- อัลกอริทึมแสดงสถานะ
เนื่องจากการแสดงผลจะช่วยให้ผู้ประกอบการและพนักงานสามารถระบุได้ว่าหุ่นยนต์ตัวเองว่างใช้งาน ทำให้ฟังก์ชั่นการแสดงสถานะเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยให้ทราบได้ว่า Bella Bot ตัวนั้นกำลังทำอะไรอยู่ อีกทั้งหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารตัวนี้ยังสามารถพูดคุยกับหุ่นยนต์อื่น ๆ ได้อีกด้วย
แล้วหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารแต่ละประเภทจะเลือกดูได้อย่างไรว่าเหมาะสมต่อการใช้งานรูปแบบไหน ในสถานที่ใด ในบทความนี้เรามีคำตอบการประยุกต์ใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร
1.ร้านหารที่คนพลุกพล่าน
ร้านอาหารที่ผู้คนหรือลูกค้าสับเปลี่ยนหมุนเวียนเร็ว เช่น ร้านชาบู ร้านบุฟเฟต์ มักมีจำนวนพนักงานเสิร์ฟไม่เพียงพอ อีกทั้งยังพบข้อผิดพลาดเรื่องการจดจำออเดอร์การเสิร์ฟผิด ทำให้ Bella Bot เป็นหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารที่เหมาะสม เนื่องจากฟังก์ชั่นที่กล่าวไปข้างต้นเพิ่มประสิทธิภาพในการเสิร์ฟ แม้จะต้องเผชิญสิ่งกีดขวางจำนวนมาก
2.ร้านอาหารสำหรับพื้นที่ใหญ่
ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ใหญ่ เช่น สนามบิน ห้างสรรพสินค้า เหมาะสำหรับการประยุกต์ใช้ Ketty Bot เพราะนอกจากการเสิร์ฟที่แม่นยำ ยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นการแสดงผลแบบภาพ เพื่อโปรโมท แสดงเมนู และแสดงแผนที่ร้าน
3.ร้านอาหารแบบ Fine Dining หรือคาเฟ่
ร้านอาหารแบบ Fine Dining หรือคาเฟ่ ซึ่งเน้นการให้พื้นที่ส่วนตัวสำหรับลูกค้าและภาพลักษณ์ ทำให้หุ่นยนต์อย่าง Pudu Bot ที่แข็งแรง มั่งคง สามารถเสิร์ฟอาหารในรูปแบบที่ไม่กระทบต่อรูปลักษณ์อาหารจานนั้น ๆ อีกทั้งความเงียบยังช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าอีกด้วย
นอกจากประโยชน์ด้านการใช้งานแล้ว หุ่นยนต์แต่ละประเภทของ Cleanatic ยังมีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์ที่เพิ่มความน่ารักและบรรยากาศเป็นกันเอง แม้จะเป็นหุ่นยนต์ก็ตาม แต่ความสามารถก็ไม่แพ้กับพนักงานมืออาชีพ เพื่อให้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารจาก Cleanatic เพิ่มเอกลักษณ์ที่ดึงดูดลูกค้า ให้ธุรกิจคุณได้เติบโตอย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง